test using jwplayer plugin
Wednesday, December 25th, 2013test using jwplayer plugin
[jwplayer mediaid=”724″]
ไกด์คู่มือใช้งาน แก้ปัญหาเว็บเบราว์เซอร์ Internet Explorer,Mozilla Firefox,Google Chrome,Opera,Apple Safari,Microsoft Edge และ Mobile browser
test using jwplayer plugin
[jwplayer mediaid=”724″]
หากใครที่กำลังติดปัญหา งง สงสัย หรือค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับวิธีตั้งค่าเพื่อให้เล่น Internet(EDGE/GPRS/3G) ของซิมค่ายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น AIS,DTAC,Truemove,TOT สำหรับใช้งานกับ Aircard ก่อนที่จะไปซื้อมาใช้งานเล่นอินเตอร์เน็ตจริงๆนั้น วันนี้ผมเอาวิธีตั้งค่า พร้อมตัวอย่างให้ลองทำตามและเอาไปทำตามแล้วใช้ได้เลย ดังต่อไปนี้
วิธีตั้งค่าเพื่อให้เล่น Internet(EDGE/GPRS/3G) ของ AIS ด้วย Aircard
ตัวอย่าง ดังรูป
วิธีตั้งค่าเพื่อให้เล่น Internet(EDGE/GPRS/3G) ของ DTAC ด้วย Aircard
ตัวอย่าง ดังรูป
วิธีตั้งค่าเพื่อให้เล่น Internet(EDGE/GPRS/3G) ของ Truemove ด้วย Aircard
ตัวอย่าง ดังรูป
วิธีตั้งค่าเพื่อให้เล่น Internet(EDGE/GPRS/3G) ของ TOT ด้วย Aircard
ตัวอย่าง ดังรูป
ลองนำวิธีตั้งค่า Internet ซิม AIS,DTAC,Truemove,TOT เพื่อใช้งานกับ Aircard ดังข้างต้น ไปใช้กันดูนะครับ ^^
สวัสดีครับ วันก่อนพี่สาวคนสวยให้ช่วยดูเครื่องโน้ตบุ๊ตให้ เนื่องจากวินโดวส์ 7 ไม่สามารถบันทึกไฟล์ลงไดรว์ D: หรือ path อื่นๆในไดรส์ D: ได้ วินโดวส์ 7 ฟ้อง error “0x80070522: A required privilege is not held by the client” ดังรูป
ผมก็ค้นหาวิธีอยู่หลายชั่วโมงเหมือนกัน ลองแล้วลองเล่า ตามวิธีที่ค้นเจอ สุดท้ายก็มาหยุดอยู่ที่วิธีแก้ปัญหา Error 0x80070522: A required privilege is not held by the client ด้วย Windows 7 User Account Control(UAC) หรือการใช้ Local Security Policy หาก UAC ไม่สามารถใช้งานได้(ในบางกรณี) เอาล่ะ มาดูวิธีแก้ปัญหา Error 0x80070522: A required privilege is not held by the client กันตามที่เกริ่นมาแล้วกันดีกว่า
1. แก้ด้วย User Account Control(UAC) ทำได้ ดังนี้
หรือ หาก User Account Control(UAC) ไม่สามารถใช้งานได้ ให้แก้ด้วยวิธีที่ 2 ดังต่อไปนี้
2. แก้ด้วย Local Security Policy(secpol) ทำได้ ดังนี้
เป็นยังไงกันบ้างครับ สำหรับวิธีแก้ปัญหา Error 0x80070522: A required privilege is not held by the client บนวินโดวส์ 7 ลองนำไปใช้กันดู เท่าี้นี้คุณก็จะไม่มีปัญหาดังกล่าวมากวนใจอีกต่อไปครับ 🙂
พักนี้ มีใครเจอปัญหา ไม่ว่าจะเปิดเว็บเบราเซอร์ Internet Explorer, Firefox, Google Chrome ตัวไหนขึ้นมาก็ตาม มันจะเปิดแรกไปที่เว็บ delta-search.com ทุกครั้งไป? เปิดแท๊บใหม่ขึ้นมาก็เช่นกัน ตัวอย่างหน้าตาที่เปิดจาก Internet Explorer ดังรูป
Delta Search Virus (delta-search.com Redirect) คือออะไร?
delta-search.com redirect หรือผู้ใช้ทั่วไปมักจะเรียกอาการที่เจอว่าเป็น ไวรัส Delta Search ซึ่งไม่ว่าผู้ใช้จะเปิดว็บเบราเซอร์ Internet Explorer, Firefox, Google Chrome เพื่อไปยังเว็บไหนๆ มันก็จะ Redirect มาเปิดหน้าเว็บ delta-search.com อยู่ร่ำไป ซึ่งก่อความรำคาญ พาลเสียอารมณ์ กับการทำงานหรือเล่นอินเตอร์เน็ตเป็นอย่างยิ่ง
Delta Search Virus (delta-search.com Redirect) มาได้อย่างไร?
เท่าที่พบ และเจอปัญหานี้มา ส่วนใหญ่เครื่องที่ติดหรือเจออาการ delta-search.com redirect มันจะเกิดจาก
วิธี Remove Delta Search Virus (delta-search.com Redirect) ?
ถึงแม้ว่าจะแก้ไขโดยการ Uninstall Delta Search Add-ons ออกจาก Internet Explorer, Firefox, Google Chrome ไปแล้ว แต่อาการ delta-search.com Redirect ก็ยังคงอยู่ วิธีลบไวรัส delta-search.com Redirect ได้ชะงัดนัก ก็คือการใช้โปรแกรมรันสแกนและลบ ซึ่งโปรแกรมที่แนะนำก็ตือโปรแกรม AdwCleaner
วิธีติดตั้งและใช้งานโปรแกรม AdwCleaner
เป็นยังไงกันบ้างครับ สำหรับวิธี Remove Delta Search Virus (delta-search.com Redirect) ออกจากเครื่อง แก้ความรำคาญ ปัญหากวนใจให้หมดสิ้นไปเสียที ลองนำวิธีแก้ไขตามบทความนี้ไปใช้กันดู ^^
มีเพื่อนคนหนึ่ง ถามมาว่า อยากหาเครื่องมือหาข้อมูล เพื่อวิเคราะห์ Traffic และ SEO ของเว็บไซต์ฟรีๆ และไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมอะไรเพิ่มเติมใน Google Chrome พอจะมีหรือเปล่า? ก็เลยบอกเพื่อนไปว่า มี! เป็น Extensions ใน Google Chrome นี่หล่ะ ชื่อว่า PageRank Status
PageRank Status เป็นเครื่องมือสำหรับวิเคราะห์ Traffic และ SEO ของเว็บ ที่ให้ใช้ได้ฟรีๆบน Google Chrome ครับ คุณสมบัติหรือฟีเจอร์หลักๆ มีดังนี้
1. SEO stats แสดงข้อมูล Rank, Backlinks, Indexed,Cachedรวมถึงข้อมูล Geolocation ด้วย ดังรูป
2. Traffic stats แสดงข้อมูล Traffic จาก Alexa Traffic Rank ซึ่งสามารถเลือกดูเป็นช่วงเวลาได้ ดังรูป
3. Site info แสดงข้อมูล Domain information, Site Security, Geolocation รวมถึง On-site และ Social (SNS) ด้วย ดังรูป
4. Page info แสดงข้อมูลในหน้าเว็บเพจนั้นๆที่เรากำลังดู ได้แก่ URL,Canonical URL,Title,Meta keywords,Meta Description,Meta Robots,External links,Internal links,H1,H2,Bold/Strong,Italic/em,Alt text,Body text เพื่อใช้ในการวิเคราะห์ว่าในหน้าเพจนั้นๆ เราต้องทำ On-page อะไรเพิ่มเติมหรือเปล่า ดังรูป
5. Links stats แสดงข้อมูลลิงก์ ทั้งลิงก์ภายใน(Internal links) และ ลิงก์ภายนอก(External links) ซึ่งแสดงทั้ง URL และ Anchor text ด้วย ดังรูป
นอกจากนั้นยังมีหน้าแสดงผลเกี่ยวกับระยะเวลา หรือ performance ในการ Load page นั้นๆด้วย รวมไปถึงพวกเครื่องมือ หรือ Webmaster tools ภายนอกต่างๆ อีกด้วย
ส่วนวิธีติดตั้งและใช้งาน Pagerank Status มีดังตอไปนี้
1. ใช้ Google Chrome เปิดไปที่หน้าเว็บ Chrome Web Store (https://chrome.google.com/webstore/category/apps) จากนั้นค้นหาด้วยคำว่า “pagerank status” (หรือคลิกที่ลิงก์ นี้ เพื่อไปยังหน้า PageRank Status) เมื่อค้นหา จะพบ PageRank Status ดังรูป
ให้กดที่ปุ่ม Free เพื่อติดตั้งลงบน Google Chrome
2. จากนั้นจะปรากฏหน้าต่างเล็กๆ เด้งขึ้นมาเพื่อให้ยืนยันการติดตั้ง PageRank Status โดยกดปุ่ม Add ดังรูป
3.รอสักครู่ Google Chrome ก็ทำการติดตั้ง PageRank Status และแจ้งผลการติดตั้งให้ทราบ ดังรูป
4. หลังจากติดตั้งเสร็จ ก็พร้อมใช้งานแล้ว โดยเมื่อเราเข้าหน้าเว็บไซต์หรือหน้าเพจไหนที่สนใจจะวิเคราะห์ Traffic หรือ SEO ก็ให้กดที่ปุ่ม ดังรูปเม้าส์ชี้
5. ส่วนถ้าจะยกเลิกการติดตั้งก็ไม่ยาก โดยไปที่ Google Chrome Control Panel > Tools > Extensons แล้วเลือก Extensions โดยกดปุ่ม ถังขยะ เพื่อลบ Extension นั้นๆออกจาก Google Chrome
เป็นยังไงกันบ้างครับ สำหรับ Extension ที่ชื่อว่า PageRank Status เครื่องมือช่วยวิเคราะห์ Traffic และ SEO บน Google Chrome แบบฟรีๆ โดยไม่ต้องเสียตังค์ ลองนำไปใช้กันดูนะครับ 🙂
หากเราเปิดไปเจอหน้าเว็บเพจใดเว็บเพจหนึ่ง ซึ่งมีข้อมูลที่น่าสนใจ แล้วอยากจะบันทึกเก็บไว้ในลักษณะ E-Book(PDF ไฟล์) เพื่อเก็ยสะสม รวบรวมไว้เป็นคลังความรู้ของตัวเอง เราจะทำอย่างไรครับ? สำหรับผมง่ายๆครับ แค่ใช้ Google Chrome เบราเซอร์ เป็นตัวช่วยในการบันทึกไฟล์ PDF แล้ว Manual รวบรวมเป็น E-Book ตามที่เราต้องการ ซึ่งวิธีการที่เล่ามา สามารถทำได้ ดังนี้
1. ใช้ Google Chrome เบราเซอร์ ในการท่องอินเตอร์เน็ต เปิดหน้าเว็บเพจที่มีข้อมูลที่เราสนใจ
2. จากนั้น ไปที่ Google Chrome Control Panel แล้วเลือกเมนู Print… (คลิ๊กลำดับตามหมายเลข 1 และ 2 ตามลูกศรชี้) ดังรูป
2. ต่อมา จะปรากฏแถบเครื่องมือสำหรับบันทึกไฟล์ PDF จากนั้นให้กดปุ่ม Save (ตามหมายเลข 3)
3. จากนั้นจะปรากฏหน้าต่าง Save As ให้เลือก Path ที่ต้องการบันทึกไฟล์ PDF, ระบุชื่อไฟล์ PDF ตามต้องการ จากนั้นกดปุ่ม Save เป็นอันเรียบร้อย ได้แล้วครับ ไฟล์ PDF หนึ่งไฟล์ ดังรูป
หมายเหตุ
อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับส่วนต่างๆของเครื่องมือบันทึก PDF ใน Google Chrome (ตั้งแต่หมายเลข 3 ถึง หายเลข 13 ตามลูกศรชี้)
หมายเลข 3 กดปุ่ม Save เพื่อบันทึกไฟล์ PDF
หมายเลข 4 กดปุ่ม Cancel เพื่อยกเลิกและปิดเครื่องมือบันทึกไฟล์ PDF
หมายเลข 5 กดปุ่ม Change เพื่อเปลี่ยน Destination
หมายเลข 6 เลือก All เพื่อทำการบันทึกเป็น PDF ทุกหน้า
หมายเลข 7 เลือก แล้วระบุจำนวนหน้าเว็บเพจที่ต้องการบันทึกเป็น PDF
หมายเลข 8 เลือก Portrait ให้หน้า PDF เป็นแนวตั้ง
หมายเลข 9 เลือก Landscape ให้หน้า PDF เป็นแนวนอน
หมายเลข 10 เลือก Margins ระยะขอบของหน้า PDF ซึ่งมีให้เลือก 4 แบบ คือ Default(ค่ามาตรฐาน),None(ไม่มีระยะขอบ),Minimun(ชิดขอบที่สุด), Custom(กำหนดเอง)
หมายเลข 11 Headers and Footers แสดงหัวและท้ายหน้า PDF
หมายเลข 12 Background colors and images กำหนดให้พิมพ์ภาพพื้นหลังและรูปภาพด้วย
หมายเลข 13 Print using system dialog… สำหรับตั้งค่าเครื่องพิมพ์ (ใช้ในกรณีที่ต้องการพิมพ์หน้าเว็บเพจออกทางเครื่องพิมพ์) ดังรูป
เป็นยังไงกันบ้างครับ ทิปเล็กๆน้อยจาก Google Chrome เบราเซอร์ ที่ช่วยให้เราเซฟหน้าเว็บเพจเป็นไฟล์ PDF ได้ง่ายๆ ไม่ต้องลงโปรแกรมหรือติดตั้งเครื่องมืออะไรเพิ่มเติม ลองนำทิปนี้ไปใช้กันดูนะครับ 🙂
ปัจจุบันนี้เว็บยูทูป(Youtube.com) ถือได้ว่าเป็นเว็บที่มีผู้ชม ผู้ฟังนิยมเข้าไปใช้บริการ เพื่อรับชม รับฟังวิดีโอ เพลง สตรีมมิ่งออนไลน์มากที่สุดเว็บหนึ่ง และหลังจากชมและฟังแล้ว ก็อยากดาวน์โหลดหรือบันทึกวิดีโอ เพลงนั้นๆไว้ชมไว้ฟังในคราวหลังด้วย แต่หลายคนก็ติดปัญหาว่า จะดาวน์โหลดหรือบันทึกไฟล์วิดีโอ เพลง ได้ยังไง?
วันนี้ผมมีปลั๊กอินสุดเจ๋ง มาแนะนำสำหรับใช้ในการดาวน์โหลดวิดีโอยูทูป ไม่ว่าคุณจะใช้เบราเซอร์ IE, Google Chrome หรือ Firefox ในการเยี่ยมชมดูคลิปวิดีโอบน Youtube เหล่านั้นแล้ว ปลั๊กอินที่ว่านั้นก็คือ ปลั๊กอิน BestVideoDownloader
โดยขั้นตอนติดตั้งและวิธีใช้งานปลั๊กอิน BestVideoDownloader ก็ไม่มีอะไรยุ่งยากซับซ้อน ตามขั้นตอนต่อไปนี้
1. ให้ทำการดาวน์โหลดและติดตั้งปลั๊กอิน BestVideoDownloader ลงเครื่อง โดยดาวน์โหลดปลั๊กอิน BestVideoDownloader ให้คลิก ที่นี่
2. เมื่อดาวน์โหลดเสร็จแล้วให้ปิด IE, Google Chrome,Firefox ออกไปก่อน จากนั้นดับเบิ้ลคลิกที่ไฟล์ BestVideoDownloader.exe เพื่อติดตั้ง ติดตั้งปลั๊กอิน BestVideoDownloader
3. รอสักครู่จะมีหน้าจอให้ติดตั้งBestVideoDownloader จะมีช่องให้ติ๊กเลือกว่าจะติดตั้งปลั๊กอินเข้ากับเบราเซอร์อะไรบ้าง(โดยปกติ โปรแกรมมันจะเลือกไว้ให้เองอยู่แล้ว) ดังรูป
4. จากนั้น ให้กดปุ่ม Agree จะมีหน้าต่างปรากฏขึ้นมา ดังรูป ข้างล่าง ให้กดปุ่ม Decline ไปเลย
5. ต่อมาจะมีหน้าต่างถามความยินยอมให้ติดตั้ง Delta Toolbar ลงเครื่องหรือไม่ ให้ติ๊กเครื่องหมายถูกออกหน้าข้อความต่อไปนี้
จะได้ดังรูป
6. จากนั้นให้กดปุ่ม Decline และรอสักครู่ โปรแกรมก็จะทำการติดตั้งปลั๊กอินBestVideoDownloader ลงเครื่อง
7. เมื่อติดตั้งเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะปรากฏหน้าจอ ดังรูป ให้กดปุ่ม Finish เพื่อเสร็จสิ้นการติดตั้ง
8. จากนั้นให้เปิดโปรแกรมเบราเซอร์ที่ใช้ในการดูคลิปวิดีโอในยูทูป (อาจจะเป็น IE หรือ Google Chrome หรือ Firefox) ตามแต่ถนัดและได้ติดตั้งไว้ใช้ในเครื่องครับ
9. ต่อมาให้เข้าไปที่เว็บ Youtube.com แล้วเลือกฟัง ชมวิดีโอ เพลง คลิปที่ต้องการจะดาวน์โหลดหรือบันทึกเก็บไว้ ซึ่งจะมีปุ่ม Download อยู่ด้านล่างคลิปวิดีโอนั้นๆ ให้กดปุ่ม Download แล้วเลือกรูปแบบไฟล์ที่จะดาวน์โหลด เช่น Mp3(เพลง), MP4(วิดีโอ) เป็นต้น ดังรูป
เมื่อเลือกดาวน์โหลดและบันทึกไฟล์ไว้ตามที่ต้องการแล้ว ก็รอสักครู่ จนกว่าจะดาวน์โหลดวิดีโอนั้นๆเสร็จ
เพียงเท่านั้นก็จะสามารถดาวน์โหลดคลิปวิดีโอจากยูทูป ไม่ว่าคุณจะใช้ IE, Google Chrome หรือ Firefox แล้วละครับ ลองนำไปใช้กันดูนะครับ 😀
เข้าใจว่าหลายคนคงจะเจอปัญหา Google Chrome อืดและช้า ซึ่งผมเองก็เจอปัญหานี้มาเหมือนกัน ก็เลยลองๆงัดแงะ Google Chrome ดูว่ามันเป็นอะไร รวมทั้งค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม ก็ได้พบแนวทางที่เอามาแชร์ลงในบทความนี้ให้เพื่อนๆที่เจอปัญหาเช่นเดียวกันนี้ นำไปใช้กันดู ตามวิธีการดังต่อไปนี้
ตรวจสอบ Background Process หรือ Task
1. ให้ตรวจสอบดู Background Process หรือ Task ที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง ซึ่งอาจจะแสดงหรือไม่แสดงให้เราเห็นใน Tab ก็ได้ โดยสามารถตรวจสอบได้ดังนี้
2. ไปคลิกที่ปุ่ม Customize and control Google Chrome จากนั้นเลือก View Background pages ดังรูป
หรือ ไปคลิกขวาที่แถบ Tab ที่ว่าง แล้วเลือกเมนู Task Manager ดังรูป
3. จากนั้นจะปรากฏหน้าต่าง Task Manager ดังรูป
เพื่อเช็ค Background Process หรือ Task ที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง จากนั้นก็เลือก Process หรือ Task ที่ต้องการ แล้วกดปุ่ม End process ได้เลย
หมายเหตุ Task หรือ Process ที่ชื่อว่า Browser และ GPU Process อย่าไป End process มันนะครับ เพราะนั่นคือ Process หลักของ Google Chrome
ตรวจสอบการเปิดใช้ Extension/Plugin ต่างๆ
1. จากวิธีการตรวจสอบ Background Process หรือ Task ข้างต้นแล้ว เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าครับ ถ้าจะแก้ปัญหาระยะยาว ต้องมาตรวจสอบดูว่า เราติดตั้ง ใช้งาน Extension/Plugin อะไรอยู่หรือเปล่า รวมไปถึงติดตั้ง Chrome Apps ตัวไหนลงไปด้วย ที่ทำให้ Google Chrome ทำงานหนัก จนอืดจนช้าลงไป โดยสามารถตรวจสอบ ปิด เปิด การใช้งาน Extension/Plugin ได้ดังนี้
2. ให้พิมพ์ข้อความ “chrome://extensions/“(ไม่ต้องมี “”) ที่ช่อง URL หรือไปที่ปุ่ม Customize and control Google Chrome แล้วเลือกเมนู Tools > Extensions ดังรูป
3. จะปรากฏแท๊บ Extensions ดังรูป
4. แล้วเลือก Disable/Enable Extensions ที่เราเห็นว่ามันใช้หน่วยความจำเยอะ หรือทำให้ Google Chrome อืด ช้า (ดูจากหน้า Task Manager) ดังรูป
แล้วคลิกเครื่องหมายถูกออกเพื่อ Disable หรือคลิกเครื่องหมายถูก เพื่อ Enable หรือคลิกที่รูปไอคอนถังขยะ เพื่อ Uninstall Extensions นั้นๆออกไป
5. จากนั้นก็ปิด แล้วเปิด Google Chrome ใหม่อีกครั้ง ดูผลลัพธ์ครับ
หวังว่าบทความวิธีตรวจสอบและแก้ปัญหา Google Chrome อืดและช้า เบื้องต้นนี้ จะช่วยให้เพื่อนๆใช้งาน Google Chrome ได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นนะครับ 🙂
วันก่อนมีพี่ที่ทำงานถามว่า ถ้าอยากจะดาวน์โหลดคลิปวิดีโอจากFacebook โดยที่ไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมอะไรเสริม เพิ่มเติมให้ยุ่งยาก พอจะมีหรือหาได้มั้ย ผมก็เลยตอบพี่ไปว่า มี ได้สิครับ มีเว็บที่ช่วยให้พี่สามารถดาวน์โหลดคลิปวิดีโอจากFacebookออนไลน์ได้ง่ายๆ ไม่ยุ่งยากเลย พี่ๆเพื่อนๆน้องๆที่กำลังมองหาเครื่องมือตัวนี้อยู่ก็สามารถนำไปใช้ได้นะครับ เครื่องมือที่ว่านี้ก็คือ เว็บ downvids.net
บอกขุมทรัพย์ ลายแทงไปแล้ว คราวนี้ผมจะบอกว่า ขั้นตอน วิธีดาวน์โหลดคลิปวิดีโอจากFacebookโดยใช้เว็บdownvids.net มีดังต่อไปนี้
1. เลือกคลิปวิดีโอใน Facebook ที่คุณต้องการดาวน์โหลด ตัวอย่าง ดังรูป
แล้วคัดลอก URL ของคลิปวิดีโอจากFacebook ดังที่ไฮไลท์ไว้เป็นตัวอย่าง
2. จากนั้นคลิกเข้าไปที่เว็บ downvids.net แล้ววาง URL ที่คัดลอกมาจากข้อ 1 ลงในช่อง “Enter the video link” ดังรูป
3. เมื่อวาง URL ลิงก์ของวิดีโอFacebook เรียบร้อยแล้ว ให้กดปุ่ม “DOWNLOAD” ที่อยู่หลังช่อง Enter the video link แล้ว รอสักครู่ จนกระทั่งมีปุ่ม “Download this Video (Right Click and SAVE AS)” ดังรูป
4. ให้คลิกขวาที่ปุ่มนั้น แล้วเลือกเมนู “Save link as” ดังรูป
5. ต่อมาจะปรากฏหน้าต่างให้บันทึกวิดีโอจากFacebook ลงเครื่อง ดังรูป
ให้เปลี่ยนชื่อไฟล์ตามที่ต้องการ แล้วกดปุ่ม “Save” โดยไฟล์วิดีโอที่บันทึกจะมีนามสกุลหรือ File Extension เป็น .MP4 เป็นอันเรียบร้อย สำหรับการดาวน์โหลดคลิปวิดีโอจากFacebook โดยที่ไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมอะไรเสริม เพิ่มเติมให้ยุ่งยากครับ ลองนำไปใช้กันดูนะครับ 🙂
หากคุณชื่นชอบการใช้งานGoogle Chrome แต่มีเว็บบางที่ไม่ได้ทำรองรับGoogle Chrome ไว้ ซึ่งจำเป็นต้องเปิดด้วย Internet Explorer(IE) เท่านั้นถึงจะใช้งานเว็บนั้นได้ และไม่สะดวกกับการเปลี่ยนโปรแกรมสลับกลับไปกลับมาระหว่าง Google Chrome และInternet Explorer(IE) วันนี้ผมมีปลั๊กอินGoogle Chrom ที่จะช่วยให้เล่น Internet Explorer(IE) บน Google Chrome ได้มาแนะนำครับ ปลั๊กอินที่ว่าก็คือ IE Tab
วิธิการติดตั้งและใช้งาน
1. คลิกที่ลิงก์ IE Tab และปุ่ม “+ ADD TO CHROME” เพื่อเพื่อดาวน์โหลดและติดตั้งปลั๊กอิน IE Tab
2. หลังจากกดปุ่ม “+ ADD TO CHROME” แล้ว จะมีหน้าต่างเล็กๆเด้งขึ้นมา ดังรูป
3. ให้กดปุ่ม Add เพื่อติดตั้ง และรอสักครู่ จนกว่าจะมีหน้าต่างแท๊บใหม่เปิดขึ้นมา พร้อมข้อความ “Thanks for installing IE Tab!”
ซึ่งอยู่มุมบนขวาของหน้าจอ Google Chrome ดังรูป
5. แสดงว่าการติดตั้งปลั๊กอิน IE Tab เสร็จสมบูรณ์แล้ว เวลาใช้งาน IE Tab ก็ให้่กดปุ่ม จากนั้น Google Chrome จะเปิด IE Tab ให้คุณสามารถใช้งานได้ ซึ่งการกรอก URL เว็บที่เราต้องการเยี่ยมชมหรือใช้งาน ให้กรอกที่ช่อง URL ใน IE Tab นะครับ
6. จากนั้นก็ได้เวลาทดลองใช้งาน IE Tab ได้ครับ 🙂
หมายเหตุ
1. ปลั๊กอิน IE Tab นี้ รองรับ Google Chrome บน Windows เท่านั้นนะครับ
2. รองรับการใช้งานพวก ActiveX controls, Sharepoint, ICBC, alipay ได้