Archive for the ‘Internet Explorer’ Category

วิธีแก้ปัญหา Internet Explorer has stopped working – ilovebrowser.com

Tuesday, September 20th, 2011 |

ถ้าหากใช้โปรแกรม Internet Explorer เล่นอินเตอร์เน็ตอยู่ดีๆ แล้ว IE มันแจ้ง Error Internet Explorer has stopped working. ตัวอย่าง ดังรูป

A Problem caused the program working correctly window will close the program and notify you a solution is available. แล้วก็เน็ตหลุดไปเลย ซึ่งจากปัญหาข้างต้นนี้ อาจจะมีหลากหลายสาเหตุที่อาจจะเกี่ยวข้อง วันนี้ผมจึงขอแนะนำวิธีแก้ปัญหา Internet Explorer has stopped working นี้มาฝากกัน ให้ลองนำไปใช้กันดูครับ

วิธีแก้ข้อที่ 1 Reset ค่า Settings ใน Internet Explorer ให้เป็นค่า default ทำได้โดย ปิด Internet Explorer แล้วไปที่ Start > Control Panel > Internet Options > จากนั้นคลิกที่แท๊บ Advanced > แล้วคลิกปุ่ม Reset > เมื่อเรียบร้อยแล้ว ให้คลิกปุ่ม OK จากนั้นลองเปิด Internet Explorer ใหม่อีกครั้ง ตัวอย่าง ดังรูป

วิธีแก้ข้อที่ 2 Disable ปิดการทำงานของ Protection Mode ใน Internet Explorer ทำได้โดย ปิด Internet Explorer แล้วไปที่ Start > Control Panel > Internet Options > จากนั้นคลิกที่แท๊บ Security > จากนั้นติ๊กเครื่องหมายถูกออกหน้าข้อความ Enable Protection Mode > เมื่อเรียบร้อยแล้ว ให้คลิกปุ่ม OK จากนั้นลองเปิด Internet Explorer ใหม่อีกครั้ง ตัวอย่าง ดังรูป

วิธีแก้ข้อที่ 3 ลบ Disable หรือ Uninstall พวก third party Add-ons ต่างๆออกให้หมด เช่น Skype Add-on ใน IE เป็นต้น

วิธีแก้ข้อที่ 4 เปลี่ยนไปใช้ Internet Explorer (โหมด No Add-ons) เพื่อปิดการทำงานของ Add-on ทั้งหมด จะช่วยให้การทำงานของ IE รวดเร็วและเสถียรยิ่งขึ้น สามารถทำได้ โดย ปิด Internet Explorer แล้วไปที่ Start > คลิก All Programs > คลิก Accessories > คลิกที่ Systems Tools > จากนั้นคลิก Internet Explorer(No add-ons)

วิธีแก้ข้อที่ 5 ลบ หรือ Uninstall Toolbar ใน Internet Explorer ที่ไม่จำเป็นออกไป เพราะ Toolbar บางตัวทำให้ IE แฮงค์ หรือหยุดทำงานได้

วิธีแก้ข้อที่ 6 ถ้าลองทั้ง 5 วิธีแล้วยังไม่ได้ ต้องลองติดตั้ง Internet Explorer ใหม่ๆ ซึ่งอาจจะ Re-install Internet Explorer เวอร์ชั่นที่ใช้อยู่เดิม หรือติดตั้ง Internet Explorer เวอร์ชั่นใหม่ๆ ดูนะครับ ทั้งนี้วิธีแก้ปัญหา Internet Explorer has stopped working ข้างต้น สามารถแก้ปัญหา internet explorer crash, IE crashing, internet explorer not responding ได้เช่นกันครับ หากเจอปัญหาเหล่านี้ ลองนำวิธีแก้ข้างต้นไปใชกันดูครับ

วิธีเช็ค .NET Framework ผ่าน IE เว็บเบราเซอร์ – ilovebrowser.com

Monday, September 19th, 2011 |

รู้หรือไม่ครับว่า Internet Explorer ตั้งแต่เวอร์ชั่น 7 หรือสูงกว่า สามารถเช็ค .NET Framework ที่ติดตั้งลงในเครื่องได้ โดยใช้คำสั่ง javascript เพื่อดึงข้อมูลจาก User Agent String ของ Internet Explorer นั่นเอง วิธีดังกล่าว สามารถทำได้ดังนี้

1. ให้เปิด Internet Explorer ขึ้นมา

2. จากนั้นให้พิมพ์คำสั่ง javascript ลงไปในช่อง Address bar ของ Internet Explorer ดังนี้

javascript:alert(navigator.userAgent)

ตัวอย่างดังรูป

3. เมื่อพิมพ์คำสั่ง javascript ในช่อง Address bar เรียบร้อยแล้ว ให้กดปุ่ม Enter ก็จะได้ผลลัพธ์ ดังรูป

จากรูปจะเห็นว่าในเครื่องได้ติดตั้ง .NET Framework เวอร์ชั่นต่างๆ ดังนี้

– .NET Framework เวอร์ชั่น 2.0(.NET CLR 2.0.50727)
– .NET Framework เวอร์ชั่น 3.0(NET CLR 3.0.30729)
– .NET Framework เวอร์ชั่น 3.5(.NET CLR 3.5.30729)
– .NET Framework เวอร์ชั่น4.0(.NET 4.0C)

เพียงเท่านี้ก็ทำให้เราทราบแล้วหล่ะครับว่า ในเครื่องได้ติดตั้ง .NET Framework เวอร์ชั่นไหนไว้

วิธีแก้ปัญหา Google Toolbar ใน Internet Explorer 9 – ilovebrowser.com

Thursday, August 25th, 2011 |

เดิมที หากเพื่อนๆใช้ Google Toolbar ที่ติดตั้งใน Internet Explorer 8 ไม่มีปัญหาใดๆ แต่พอมาอัพเกรดเป็น Internet Explorer 9 ทำให้ Google Toolbar หรือ IE9 มีปัญหา ค้าง หรือแฮงค์ วันนี้เลยมาแนะนำวิธีแก้ปัญหา Google Toolbar แฮงค์ ค้าง ใน Internet Explorer 9 ให้ใช้งานได้อย่างราบรื่น ไม่มีปัญหาใดๆ

วิธีแก้ปัญหา Google Toolbar แฮงค์ ค้าง ใน Internet Explorer 9 สามารถทำได้ดังนี้

วิธีที่ 1. Disable Google Toolbar หรือปิดการทำงาน Google Toolbar นั่นเองครับ ทำได้ดังนี้
1.1 ให้ไปที่เมนู Tools > Manage add-ons.
1.2 เลือกเมนู Toolbars and Extensions
1.3 ในส่วนของ Google Inc. ให้เลือก Google Toolbar ดังรูป

1.4 จากนั้นคลิกปุ่ม Disable ถ้ามีข้อความปรากฏขึ้นมา ให้กดปุ่ม Disable เพื่อยืนยันอีกครั้ง

วิธีที่ 2. Uninstall Google Toolbar หรือถอดถอนเอาโปรแกรม Google Toolbar ออกไป สามารถทำได้ดังนี้
2.1 ให้ไปที่ปุ่ม Start ของวินโดวส์
2.2 จากนั้นไปที่ Control Panel > คลิกที่ Programs > จากนั้นคลิกที่ Uninstall a Program > คลิกเลือก Google Toolbar ในลิสต์ > จากนั้นคลิกปุ่ม Uninstall ดังรูป

วิธีที่ 3. Install Google Toolbar เวอร์ชั่นใหม่ ทำได้ดังนี้
3.1 ให้คลิกที่ลิงค์ Install Google Toolbar
3.2 คลิกปุ่ม Accept and Download เพื่อติดตั้ง google toolbar ดังรูป

3.3 หลังจากติดตั้ง google toolbar แล้ว จะมีแถบบาร์ยืนยันให้เปิดใช้งานgoogle toolbar ให้คลิกปุ่ม Enable

วิธีที่ 4. Enable เปิดใช้งาน Google Toolbar ใน Internet Explorer 9 สามารถทำได้ดังนี้
4.1 ถ้าหากติดตั้ง google toolbar แล้วยังไม่สามารถใช้งานได้ ให้ไปที่เมนู Tools จากนั้นคลิกเมนู Manage Add-ons
4.2 ต่อมาให้คลิกเมนู Toolbars and Extensions แล้วเลือก Google Toolbar และคลิกปุ่ม Enable. หากมี add-on หรือ extensions อื่นๆ เช่น Google Toolbar Helper และ Google Side Bar ให้กดปุ่ม Enable ด้วย
4.3 ถ้าหากยังไม่สามารถใช้ได้ ให้คลิกที่แถบทูลบาร์ของ IE9 แล้วเลือกเมนู Google Toolbar ดังรูป

เป็นอันเสร็จเรียบร้อยครับ

ยังไงลองเอาวิธีแก้ปัญหา Google Toolbar แฮงค์ ค้าง ใน Internet Explorer 9 ไปใช้กันดูนะครับ 😀

วิธีตั้งค่า Tracking Protection ใน Internet Explorer 9 – ilovebrowser.com

Saturday, July 30th, 2011 |

สำหรับวิธีการตั้งค่า Tracking Protection ใน Internet Explorer 9 นี้ ก็เพื่อช่วยป้องกันการถูกติดตามจากพฤติกรรมการเล่นอินเตอร์เน็ตจากคุ๊กกี้(Cookies) และก็เป็นคุ๊กกี้จากผู้ให้บริการโษณาออนไลน์ค่ายต่างๆ ซึ่งบางคนอาจจะไม่สนใจ และบางคนอาจจะสนใจ เพราะห่วงเรื่องการคุกคามความเป็นส่วนตัว และสร้างความรำคาญจากการใช้งานอินเตอร์เน็ตด้วย ซึ่งวิธีการตั้งค่าและใช้งาน Tracking Protection ใน Internet Explorer 9 สามารถทำได้ดังนี้

1. ให้ไปที่เมนู Tools > Tracking Protection… หรือคลิกไอคอนวงกลมรูปเกียร์ ซึ่งอยู่มุมขวาของ IE แล้วคลิกที่เมนู Safety > Tracking Protection… จากนั้นจะปรากฏหน้าจอ Manage Addon และคลิกที่ Your Personalized List ดังรูป

2. จากนั้นคลิกปุ่ม Settings และจะปรากฏหน้าจอ Personalized Tracking Protection List ดังรูป

จากรูป จะมีตัวเลือกสำรับการตั้งค่า 2 ตัวเลือก ได้แก่
– Choose content to block or allow เป็นตัวเลือกโดยดีฟอลต์ ตัวเลือกนี้สามารถให้เราเลือกตั้งค่าที่จะบล็อคการติดตามจากคุ๊กกี้ของผู้ให้บริการโษณาออนไลน์แบบกำหนดได้เอง ทั้งนี้สามารถกดปุ่ม Shift เพื่อเลือกหลายๆตัวได้ ซึ่งเมื่อเลือกได้แล้วก็กดปุ่ม Block หรือกดปุ่ม Allow เพื่อยกเลิกการบล็อค
– Automatically block เป็นตัวเลือกบล็อคการติดตามจากคุ๊กกี้ของผู้ให้บริการโษณาออนไลน์แบบอัตโนมัติ

3. เมื่อเลือกตัวเลือก และตั้งค่าต่างๆเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ให้กดปุ่ม OK จะกลับไปที่หน้าจอManage Addon ให้คลิกที่เมนู Your Personalized List แล้วกดปุ่ม Enable เพื่อเปิดการ Tracking Protection

เพียงเท่านี้ก็จะช่วยป้องกันการถูกติดตามจากพฤติกรรมการเล่นอินเตอร์เน็ตจากคุ๊กกี้(Cookies) จากผู้ให้บริการโษณาออนไลน์ค่ายต่างๆ และไม่ต้องห่วงเรื่องการคุกคามความเป็นส่วนตัว และสร้างความรำคาญจากการใช้งานอินเตอร์เน็ตแล้วหล่ะครับ

วิธีตั้งค่าบล็อกป๊อบอัพ(popup blocker settings) ใน Internet Explorer ตอนที่ 2 – ilovebrowser.com

Monday, May 9th, 2011 |

จากที่ได้ แนะนำ
วิธีบล็อกป๊อบอัพ(popup blocker) ใน Internet Explorer ตอนที่ 1 – ilovebrowser.co ไปแล้ว วันนี้จะมาแนะนำวิธีการตั้งค่าบล็อกป๊อบอัพ(popup blocker settings) ใน Internet Explorer กันต่อนี้ครับ เพื่อการปรับแต่งการใช้งานที่มีประสิทธิภาพและยืดหยุ่นกับการใช้งาน ดังวิธีต่อไปนี้

วิธีตั้งค่าบล็อกป๊อบอัพ(popup blocker settings) ใน Internet explorer
1. ให้เปิด Internet Explorer(IE) ขึ้นมา
2. จากนั้นไปที่เมนู Tools(ถ้าไม่เห็นเมนูTools ให้กดปุ่ม Alt ก็จะเห็นแล้วครับ) > Pop-up Blocker
3. จะปรากฏเมนูย่อยอกมา ให้คลิกเมนู Pop-up Blocker Settings เพื่อตั้งค่าการใช้งาน

ดังรูปตัวอย่าง

5. จากนั้นจะมีหน้าต่าง Pop-up Blocker Settings ปรากฏขึ้นมา ดังรูปตัวอย่าง

6. ซึ่งมีส่วนต่างๆในการตั้งค่า ดันี้

– ที่ส่วน Exceptions ให้ใส่ ชื่อเว็บไซต์ หรือ url ที่ต้องการให้ยกเว้นการบล๊อกป๊อบอัพ
– ที่ส่วน Notification and blocking level  ให้ติ๊กถูกที่ Play a sound when a pop-up is blocked เพื่อให้มีเสียงขณะบล๊อกป๊อบอัพ และติ๊กถูกที่ Show information Bar when a pop-up blocked เพื่อให้แสดงแถบบาร์ที่ส่วนบนของหน้าเว็บเพจขณะบล๊อกป๊อบอัพ
– ที่ส่วน Blocking level ให้เลือก High: Block all pop-ups [Ctrl + Alt to override] เพื่อบล๊อกทุกป๊อบอัพ

7. จากนั้นกดปุ่ม Close เพื่อปิดหน้าต่างการตั้งค่า Pop-up blocker settings แล้วจากนั้นก็ เปิดและปิด Internet Explorer เพื่อดูผลครับ

ยังไงลองนำวิธีตั้งค่าบล็อกป๊อบอัพ(popup blocker settings) ใน Internet Explorer ในบทความนี้ไปปรับตั้งค่าใช้งานกันดูนะครับ 😀

 

 

วิธีตั้งค่าบล็อกป๊อบอัพ(popup blocker) ใน Internet Explorer ตอนที่ 1 – ilovebrowser.com

Friday, May 6th, 2011 |

สวัสดีครับ 😀

วันนี้มีเพื่อนคนหนึ่ง ถามว่ามีวิธีบล็อกป๊อบอัพ หรือหน้าต่างที่เด้งขึ้นมาเอง ในเบราเซอร์ Internet explorer หรือไม่ เพราะเพื่อนคนนั้นบอกว่า รำคาญป๊อบอัพต่างๆที่เด้งขึ้นมา เมื่อเข้าไปเยี่ยมชมหน้าเว็บเพจ หรือเว็บไซต์นั้นๆ ซึ่งผมเองก็ได้แนะนำวิธีตั้งค่าบล็อกป๊อบอัพ(popup blocker) ใน Internet Explorer ให้เพื่อนคนนั้นใช้ ซึ่งเป้นวิธีเดียวกันกับที่ผมจะแนะนำ ขั้นตอนต่อไปนี้

วิธีตั้งค่าจากเมนู Tools ใน Internet explorer
1. ให้เปิด Internet Explorer(IE) ขึ้นมา
2. จากนั้นไปที่เมนู Tools(ถ้าไม่เห็นเมนูTools ให้กดปุ่ม Alt ก็จะเห็นแล้วครับ) > Pop-up Blocker
3. จะปรากฏเมนูย่อยอกมา ให้คลิกเมนู Turn On Pop-up Blocker เพื่อเปิดใช้การใช้งาน Pop-up Blocker
4. แต่ถ้าต้องการยกเลิกการบล็อกป๊อบอัพให้คลิกเมนู Turn Off Pop-up Blocker เพื่อปิดการใช้ Pop-up Blocker

ดังรูปตัวอย่าง

วิธีตั้งค่าจากเมนู Internet Options ใน Internet explorer
1. ให้เปิด Internet Explorer(IE) ขึ้นมา
2. จากนั้นไปที่เมนู Tools(ถ้าไม่เห็นเมนูTools ให้กดปุ่ม Alt ก็จะเห็นแล้วครับ) > Internet Options
3. ต่อมาให้คลิกที่แท็บ Privacy แล้วติ๊กเครื่องหมายถูกที่หน้าข้อความ Block pop-ups เพื่อเปิดการใช้งาน Pop-up Blocker
4. แต่ถ้าต้องการยกเลิกการบล็อกป๊อบอัพให้ติ๊กเครื่องหมายถูกออกที่หน้าข้อความ Block pop-ups เพื่อปิดการใช้งาน Pop-up Blocker
5. จากนั้นให้กดปุ่ม Apply > OK

ดังรูปตัวอย่าง

เพียงเท่านี้ เพื่อนๆก็ไม่ต้องกังวล หรือรำคาญป๊อบอัพที่มันเด้งขึ้นมาขณะเราเปิดดูเว็บเพจ หรือเว็บไซต์นั้นๆแล้วล่ะครับ 😀

ยังไงลองนำวิธีตั้งค่าบล็อกป๊อบอัพ(popup blocker) ใน Internet Explorer ที่ผมได้แนะนำไปปรับตั้งค่าใช้ในเครื่องของเพื่อนๆดูนะครับ และในวันถัดไปจะแนะนำการตั้งค่า setting pop-up blocker ใน Internet Explorer ในคราวต่อไปครับ ^^

วิธี reset Internet Explorer settings ให้เป็นค่าdefaultเริ่มต้น – ilovebrowser.com

Monday, May 2nd, 2011 |

หลังจากที่เราได้ปรับแต่ง ตั้งค่า internet options หรือติดตั้งพวก add-ons หรือ toolbars ต่างๆใน internet explorer ไป แล้วทำให้ IE เกิด Error แฮงค์ หรือ ค้างไป ไม่สามารถใช้งานได้เป็นปกติเหมือนเดิม และไม่สามารถหาสาเหตุของการเกิด Error นั้นๆได้ วิธีหนึ่งที่จะสามารถช่วยได้ ก็คือการ reset Internet Explorer settings ให้เป็นค่าdefault เหมือนเดิมเมื่อติดตั้งครั้งแรก ซึ่งสามารถทำได้ตามวิธีต่อไปนี้

1. เปิด Internet Explorer ขึ้นมา

2. จากนั้นให้ไปที่เมนู Tools(หรือคลิกที่ไอคอนTools ไอคอนรูปเกียร์ ก็ได้)

3. จากนั้นคลิกที่เมนู Internet Options แล้วไปที่แท๊บ Advanced ดังรูป

4. จากนั้นคลิกที่ปุ่ม Reset… เพื่อ restore ค่าsettings ของ Internet Explorer ให้กลับเหมือนเดิม และถ้าหากได้ทำการปรับแต่งค่า Advanced Settings ไปก็สามารถคลิกที่ปุ่ม Restore advanced settings ด้วย จากนั้นกดปุ่ม Apply > OK ตามลำดับ

5. จากนั้นก็ ปิดและเปิด Internet Explorer ขึ้นมาใหม่ เพื่อดูผลครับ

หมายเหตุ
1. Toolbars และ add-ons ที่ได้ติดตั้งจะถูก disabled การทำงานไป

2. ค่า Settings ต่างๆ เช่น Home page, Cookies, saved passwords, browser history,cache, temporary internet files, pop-up blocker settings

3. ค่า favorites,feeds และ web slices จะคืนค่าเริ่มต้นดังเดิม

4. ค่า default settings จะคืนค่าเริ่มต้นดังเดิม

ลองนำวิธี reset Internet Explorer settings ให้เป็นค่าdefaultเริ่มต้น ไปแก้ปัญหาIE ที่เกิดขึ้นกับเครื่องของเพื่อนๆดูนะครับ 😀

วิธี send feedback ใน Internet Explorer – ilovebrowser.com

Friday, April 8th, 2011 |

สวัสดีครับ วันก่อนนำ ช่องทางรายงานข้อผิดพลาด(Report Bug) Google Chrome เว็บเบราว์เซอร์ มาฝากกันไปแล้ว คราวนี้จะแนะนำช่องทางสำหรับ send feedback ไปยังทีมผู้พัฒนาInternet Explorer เพื่อแจ้งปัญหาการใช้งาน ข้อผิดพลาดที่เจอ หรือข้อเสอนแนะอื่นๆ กันนะครับ

วิธี send feedback ใน Internet Explorer มีดังต่อไปนี้
ขั้นแรก ให้ไปคลิกที่เมนูไอคอนรูปเกียร์ > จานั้นคลิกเมนูย่อย Send feedback ดังรูป

ขั้นต่อมา จะมีหน้าต่าง Send feedback ปรากฏขึ้นมา ให้ล๊อกอินด้วย Windows Live ID และPassword เพื่อsend feedback แจ้งปัญหาการใช้งาน ข้อผิดพลาดที่เจอ หรือข้อเสอนแนะอื่นๆ ที่เกี่ยวกับ Internet Explorer ดังรูป

ขั้นต่อไป ให้คลิกปุ่ม Next และทำการsend feedback ได้เลยครับ

แต่ถ้าหากคลิกที่เมนู Send feedback แล้ว ปรากฏหน้าจอ ดังรูป

ให้คลิกที่เมนูลิงค์ Get Windows Live ID Sign-in Assistant จะปรากฏหน้าจอให้ดาวน์โหลด Windows Live ID Sign-in Assistant ซึ่งเป็นส่วนเสริมสำหรับใช้ในการ Send feedback ใน Internet Explorer ซึ่งถ้าใช้ Windows 32 bit ให้ดาวน์โหลดไฟล์ wllogin_32.msi แต่ถ้าใช้ Windows 64 bit ให้ดาวน์โหลดไฟล์ wllogin_64.msi ดังรูป

เมื่อดาวน์โหลดเสร็จแล้ว ก็ทำการติดตั้ง ก่อนติดตั้งให้ปิด Internet Explorer ออกไปก่อน รวมทั้ง Windows Live Messenger ด้วย

ทำการติดตั้งไปจนเสร็จสิ้น จากนั้นก็ทำตามขั้นตอนแรก ข้างต้นต่อไปได้เลย

และสำหรับการแนะนำช่องทางในการsend feedback แจ้งปัญหาการใช้งาน ข้อผิดพลาดที่เจอ หรือข้อเสอนแนะอื่นๆ ที่เกี่ยวกับ Internet Explorer ก็จบเพียงเท่านี้ ลองใช้กันดูนะครับ 😀

วิธีแก้ปัญหา msfeedssync.exe application error (RSS synchronization – IE7 และ IE8) – ilovebrowser.com

Monday, March 7th, 2011 |

ช่วงนี้มัวแต่ยุ่งๆกับงาน เลยไม่ค่อยได้มีเวลามาอัพเดทบล๊อกสักเท่าไหร่นะครับ แต่วันนี้พอมีว่าง และมีเพื่อนเจอปัญหา msfeedssync.exe application error ก็เลยลองๆหาวิธีแก้มาฝากเพื่อนๆที่อาจจะเจอปัญหาเดียวกันนี้ ซึ่งตัวอย่างข้อความยาวๆที่วินโดวส์แจ้ง จะเป็นดังต่อไปนี้

Faulting application msfeedssync.exe, version 8.0.6001.17184, time stamp 0x47ccc712, faulting module msfeeds.dll, version 8.0.6001.17184, time stamp 0x47ccc720, exception code 0xc00000fd, fault offset 0x00002046, process id 0x1c98, application start time 0x01c8f1484814c945.

Faulting application msfeedssync.exe, version 8.0.6001.17184, time stamp 0x47ccc712, faulting module msvcrt.dll, version 7.0.6000.16386, time stamp 0x4549bd61, exception code 0xc00000fd, fault offset 0x00009bb2, process id 0x1ec0, application start time 0x01c8f1471a9905e9.

Faulting application msfeedssync.exe, version 8.0.6001.17184, time stamp 0x47ccc712, faulting module WININET.dll, version 8.0.6001.17509, time stamp 0x481c0708, exception code 0xc00000fd, fault offset 0x00004062, process id 0x2604, application start time 0x01c8f146dc893df3.

Faulting application msfeedssync.exe, version 8.0.6001.17184, time stamp 0x47ccc7a5, faulting module kernel32.dll, version 6.0.6000.16386, time stamp 0x4549d328, exception code 0xc00000fd, fault offset 0x0000000000037b93, process id 0xe94, application start time 0x01c8efbadb2c6b9a.

Faulting application msfeedssync.exe, version 8.0.6001.17184, time stamp 0x47ccc7a5, faulting module ntdll.dll, version 6.0.6000.16386, time stamp 0x4549d372, exception code 0xc00000fd, fault offset 0x00000000000529c5, process id 0x10f4, application start time 0x01c8ef973bc855f2.

และดังรูปต่อไปนี้

msfeedssync.exe application error

สำหรับวิธีตรวจสอบและวิธีแก้ปัญหา msfeedssync.exe application error มีดังต่อไปนี้ครับ
1. ให้ไปที่ Start > Run แล้วพิมพ์ว่า cmd และกดปุ่ม enter

2. จากนั้นพิมพ์คำสั่งที่หน้าจอ command prompt ว่า schtasks /query | findstr /i “user_feed” จากนั้นจะมีข้อความแจ้งมาว่า
User_Feed_Synchronization-{C73963F9-62BB-4 27/07/2008 10:15:00 Could not start

3. ให้ทำการ stop และ start MS Feed ใหม่ โดยไปที่ start > Run แล้วพิมพ์คำสั่งต่อไปนี้
C:Windowssystem32>msfeedssync disable แล้วกด Enter
C:Windowssystem32>msfeedssync enable แล้วกด Enter

4. จากนั้นพิมพ์คำสั่งที่หน้าจอ command prompt ว่า schtasks /query | findstr /i “user_feed” จะมีข้อความแจ้งมาว่า
User_Feed_Synchronization-{B70B1824-595E-4 27/07/2008 10:14:00 Ready
User_Feed_Synchronization-{C73963F9-62BB-4 27/07/2008 10:15:00 Could not start

5. ให้พิมพ์คำสั่ง msfeedssync disable ที่หน้าจอ command prompt แล้วกด enter

6. จากนั้นพิมพ์คำสั่งที่หน้าจอ command prompt ว่า schtasks /query | findstr /i “user_feed” จะมีข้อความแจ้งมาว่า
No tasks running – that is good

7. ต่อมา ให้พิมพ์คำสั่ง msfeedssync enable แล้วกด enter และให้พิมพ์คำสั่ง schtasks /query | findstr /i “user_feed” แล้วกด enter อีกครั้ง จะมีข้อความแจ้งมาว่า User_Feed_Synchronization-{B70B1824-595E-4 27/07/2008 10:23:00 Ready

8. น่าจะแก้ปัญหาmsfeedssync.exe application error เป็นอันเรียบร้อยแล้วครับ

9. แต่ถ้าปัญหา ปัญหาmsfeedssync.exe application error ยังคงกลับมาอีก คงต้องลองเช็คปัญหาที่อาจจะเกี่ยวข้องกับอย่างอื่นๆ เช่น

9.1. ให้ลอง disable ปิดการทำงานของโปรแกรมAntivirus ถ้ายังไม่หาย ให้ไปข้อ 9.2

9.2. ให้เปิดการใช้งาน IE ในโหมด no add-ons ถ้ายังไม่หาย ให้ไปข้อ 9.3

9.3. ให้ไปลบไฟล์โฟลเดอร์ที่ชื่อ Feeds Cache รวมทั้งไฟล์ index.dat ที่อยู่ในไดรฟ์และพาธ c:USERS%username%AppDataLocalMicrosoftFeeds Cacheindex.dat

น่าจะหายแล้วครับ ลองดูนะครับ ยังไงก็ลองแชร์หรือโพสต์ความคิดเห็นได้นะครับ 🙂

วิธีใช้เว็บเบราเซอร์โหมดส่วนตัว(Private Browsing) บน IE, Firefox, Chrome – ilovebrowser.com

Monday, February 7th, 2011 |

การใช้งานเว็บเบราเซอร์ในการท่องอินเตอร์เน็ตนั้น โดยส่วนใหญ่ จะมีการเก็บ และจดจำข้อมูลต่างๆ เช่น เว็บไซต์ที่เราไปเยี่ยมชม, ไฟล์เว็บเพจต่างๆที่ถูกโหลดมาเก็บไว้ใน temporary หรือ  cache ของเครื่อง เป็นต้น แต่จะมีวิธีการยังไง ที่ไม่ต้องให้เว็บเบราเซอร์ ทำการเก็บ และจดจำข้อมูลดังกล่าวไว้ ในขณะที่เราท่องอินเตอร์เน็ต? คำตอบที่ผมแนะนำก็คือ เว็บเบราเซอร์โหมดส่วนตัว(Private Browsing)

เว็บเบราเซอร์โหมดส่วนตัว(Private Browsing) คืออะไร

เว็บเบราเซอร์โหมดส่วนตัว(Private Browsing) เป็นโหมดที่เราใช้ท่องอินเตอร์เน็ต โดยที่ไม่ต้องเก็บข้อมูล ดังต่อไปนี้

1. เว็บไซต์ที่เราไปเยี่ยมชม(Visited pages) จะไม่ถูก add เก็บไว้ใน History Browsing
2. ข้อมูลที่กรอกใน Form และ Search Bar จะไม่ถูกเก็บไว้
3. Passwords ที่ใช้ login เข้าเว็บไซต์ต่างๆ ก็จะไม่ถูกเก็บ หรือจดจำไว้
4. ประวัติการดาวน์โหลดไฟล์(Download List)
5. คุ๊กกี้(Cookies)* ก็จะไม่มีการเก็บไว้
6. Web cache หรือ Temporary internet files อันได้แก่ พวกไฟล์เว็บเพจต่างๆ ไฟล์รูปภาพ ที่ถูกโหลดมาเก็บไว้ใน temporary หรือ  cache ของเครื่อง ก็จะไม่มีการเก็บไว้เช่นกัน

วิธีใช้เว็บเบราเซอร์โหมดส่วนตัว(Private Browsing) บน IE, Firefox, Chrome สามารถทำได้ดังนี้
1. เว็บเบราเซอร์โหมดส่วนตัว(Private Browsing) บน IE ทำได้ดังนี้
1.1 เปิด IE ขึ้นมา แล้วไปที่เมนู Tools > InPrivate Browsing (หรือใช้คีย์ด่วน Ctrl + Shift + P) ดังรูป

1.2 จากนั้น IE ก็จะเปิด InPrivate Browsing ขึ้นมาให้เราใช้อีกหน้าต่างหนึ่ง ดังรูป

1.3 จากนั้น ก็ใช้งานท่องอินเตอร์เน็ตไปตามปกติ ในหน้าต่าง InPrivate Browsing ครับ

2. เว็บเบราเซอร์โหมดส่วนตัว(Private Browsing) บน Firefox ทำได้ดังนี้
2.1 เปิด Firefox ขึ้นมา แล้วไปที่เมนู Tools > Start Private Browsing (หรือใช้คีย์ด่วน Ctrl + Shift + P) ดังรูป

2.2 จากนั้น Firefox ก็จะมีหน้าต่างเพื่อยืนยันการใช้งาน Private Browsing ขึ้นมา ดังรูป

ให้กดปุ่ม Start Private Browsing เพื่อยืนยันการใช้งาน
2.3 จากนั้นจะมีหน้าจอ Private Browsing ของ Firefox ขึ้นมาให้เราใช้งานแล้วหล่ะครับ ดังรูป

3. เว็บเบราเซอร์โหมดส่วนตัว(Private Browsing) บน Chrome ทำได้ดังนี้
3.1 เปิด Chrome ขึ้นมา แล้วไปกดปุ่มไอคอนรูปเกียร์ > เลือก New incognito window (หรือใช้คีย์ด่วน Ctrl + Shift + N) ดังรูป

3.2 จากนั้น Chrome ก็จะเปิดโหมด Private Browsing(Incognito) ขึ้นมาให้เราใช้ ดังรูป

3.3 จากนั้น ก็ใช้งานท่องอินเตอร์เน็ตไปตามปกติ ในหน้าต่าง Incognito ครับ

ยังไงลองนำวิธีใช้เว็บเบราเซอร์โหมดส่วนตัว(Private Browsing) บน IE, Firefox, Chrome ที่ผมได้แนะนำไปลองใช้กันดูนะครับ

หมายเหตุ
*คุ๊กกี้(Cookies) คือ กลุ่มของข้อมูลที่ถูกส่งจากเว็บเซิร์ฟเวอร์มา ยังเว็บเบราว์เซอร์ และถูกส่งกลับมายังเว็บเซิร์ฟเวอร์ทุกๆครั้ง ที่เว็บเบราว์เซอร์ร้องขอข้อมูล โดยปกติแล้วคุกกี้จะถูกใช้ เพื่อจัดเก็บข้อมูลขนาดเล็กๆไว้ที่เว็บเบราว์เซอร์ เพื่อให้เว็บเซิร์ฟเวอร์สามารถจดจำสถานะ การใช้งานของเว็บเบราว์เซอร์ที่มี ต่อเว็บเซิร์ฟเวอร์

ตัวอย่างการใช้งานคุกกี้ เช่น ใช้เพื่อจดจำชื่อบัญชีผู้ใช้ เวลาที่ผู้ใช้เข้าเว็บครั้งล่าสุด ข้อมูลสินค้าที่ผู้ใช้เลือกไว้ ข้อมูลในคุกกี้เหล่านี้ ทำให้เว็บไซต์สามารถที่จะจดจำผู้ใช้ได้ แต่ไม่สามารถส่งคำสั่งมาประมวลผล หรือส่งไวรัสคอมพิวเตอร์ผ่านคุกกี้ได้ และมีเพียงเซิร์ฟเวอร์ที่สร้างคุกกี้นั้นๆ เท่านั้นจึงจะสามารถอ่านค่าของคุกกี้ดังกล่าวได้

About Me

เว็บ ilovebrowser.com(i♥b) ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นแหล่งข้อมูล แหล่งเรียนรู้ วิธีการใช้งานเว็บเบราว์เซอร์ วิธีแก้ไขปัญหาเว็บเบราว์เซอร์ แนะนำทิป ทริก เทคนิคต่างๆ ที่เกี่ยวกับเว็บเบราว์เซอร์ ไม่ว่าจะเป็นเว็บเบราว์เซอร์ Internet Explorer,Firefox,Chrome,Opera,Safari,Maxthon และเว็บเบราว์เซอร์อื่นๆ More

Want to subscribe?

Subscribe in a reader