Author Archive

ตั้งค่า AutoRefresh หน้าเว็บเพจอัตโนมัติใน Internet Explorer(IE)

Monday, January 13th, 2014

ปกติเวลาที่เราเข้าเว็บประเภทประมูลออนไลน์ ซึ่งแน่ละเว็บพวกนี้จะมีเวลาที่ตั้งค่าไว้ เพื่อให้คนที่สนใจประมูลรอ และเราจำเป็นต้องกดปุ่ม F5 เพื่อ manual refresh หน้าประมูลสินค้านั้นๆ ซึ่งบางครั้งอาจจะไม่ทันหรือเสียโอกาสในการประมูล อย่างเช่นเว้บประมูลของ Ebay เป็นต้น

หรือใครที่อยากจะให้หน้าเว็บเพจที่เรากำลังเปิดอ่านหรือดูอยู่แบบนาทีต่อนาที และเราไม่จำเป็นต้องกดปุ่ม F5 เพื่อ refresh หรือ re-load เราสามารถใช้ปลั๊กอิน AutoRefresher บน IE ได้ โดยปลั๊กอินนี้ จะทำหน้าที่ refresh หรือ re-load หน้าเว็บเพจที่เราเปิดอยู่ให้อัตโนมัติ สามารถใช้ได้บน IE7, IE8 ซึ่งขั้นตอนติดตั้งและใช้งานปลั๊กอิน AutoRefresher มีดังต่อไปนี้

1. ดาวน์โหลดปลั๊กอิน AutoRefresher บน IE ได้โดย คลิกที่นี่ แล้วติดตั้งปลั๊กอินให้เรียบร้อย

2. จากนั้นเปิด IE ขึ้นมา แล้วไปที่ Tools > เลือกเมนูย่ิอย Toolbars > ติ๊กถูกที่ RefresherBand Class ดังรูป

refresher-toolbar
3. จากนั้นจะมีแถบ AutoRefresher ปรากฏบน Toolbars มุมบนขวามือ โดยแสดงข้อความว่า No Refresh ดังรูป

refresher-toolbar-default
4. ให้คลิกที่ข้อความ No Refresh นั้น จะปรากฏตัวเลือกของระยะเวลาที่จะให้ปลั๊กอิน Refresh หรือ Re-load หน้าเว็บเพจที่เราเปิดอยู่ ตัวอย่างดังรูป

refresher-toolbar-options

ซึ่งทั้งนี้ เราสามารถตั้งระยะเวลาได้ตามต้องการ โดยคลิกที่ Custom Interval… เพื่อเลือกตั้งระยะเวลาRefresh หรือ Re-load ได้เอง ลองดาวน์โหลดและติดตั้ใช้งานปลั๊กอิน AutoRefresher เพื่อโหลดหน้าเว็บเพจอัตโนมัติใน Internet Explorer(IE) ดูนะครับ ผมยังไม่ได้ทดลองบน IE9, IE10, หรือ IE11 ยังไงฝากเพื่อนๆทดลองดูละกันนะครับ 😉

เปิดหน้าเว็บเพจอย่างไวใน Google Chrome

Sunday, January 12th, 2014

เค้าว่ากันว่าวิธีตั้งค่า prerender หรือ pre-load ใน Google Chrome จะช่วยให้สามารถเปิดหน้าเว็บเพจนั้นๆให้แสดงผลได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเมื่อเว็บเพจหรือเว็บบล็อกที่มีการแสดงผลเป็นหน้าๆ ซุึ่งขณะที่เรากำลังอ่านโพสต์หรือเพจปัจจุบันอยู่ Google Chrome จะทำการ renderหรือโหลด โพสต์ถัดไปรอไว้เลย เมื่อเราคลิกที่ปุ่ม โพสต์ถัดไป หรือ Next Google Chrome ก็จะแสดงหน้าเพจหรือโพสต์นั้นๆได้ทันที

หรือแม้กระทั่งเมื่อเราพิมพ์ URL ของเว็บในช่อง URL Address Google Chrome ก็จะทำการแสดงรายชื่อ URL ที่คาดว่าน่าจะเป็นเว็บเพจที่เรากำลังจะเปิดขึ้นมาให้ ตาม History ที่เราเคยเปิด พร้อมทั้ง render หรือ pre-load หน้า้เว้บเพจนั้นๆรอไว้ให้เลย เมื่อเรากด Enter เพื่อเข้าสู่หน้าเว็บเพจนั้นๆ ก็จะแสดงผลขึ้นมาทันที

มาดูวิธีการตั้งค่า prerender หรือ pre-load ให้เปิดหน้าเว็บเพจอย่างรวดเร้วกัน
1. เปิดเมนูตั้งค่า Google Chrome แล้วเลือกเมนูย่อย Settings ดังรูป

webpage-load-faster-chrome
2. จากนั้นจะปรากฏหน้าจอตั้งค่า Google Chrome ให้เลื่อน Scroll ลงไปจนถึงท้ายสุดของหน้า แล้วที่ลิงก์ Show advanced settings…
3. ให้ดูในส่วนของ Privacy แล้วติ๊กเลือก Predict network actions to improve page load performance ดังรูป

webpage-load-faster-chrome2
4. จากนั้นปิดแล้วเปิด(Re-start) Google Chrome เพื่อใช้งานและดูผลลัพธ์

เพียงเท่านี้เราก็สามารถเปิดหน้าเว็บเพจใน Google Chrome ได้อย่างรวดเร็วทันใจแล้วละครับ ^^

test using jwplayer plugin

Wednesday, December 25th, 2013

test using jwplayer plugin

[jwplayer mediaid=”724″]

วิธีตั้งค่า Internet ซิม AIS,DTAC,Truemove,TOT เพื่อใช้งานกับ Aircard

Wednesday, November 6th, 2013

หากใครที่กำลังติดปัญหา งง สงสัย หรือค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับวิธีตั้งค่าเพื่อให้เล่น Internet(EDGE/GPRS/3G) ของซิมค่ายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น AIS,DTAC,Truemove,TOT สำหรับใช้งานกับ Aircard ก่อนที่จะไปซื้อมาใช้งานเล่นอินเตอร์เน็ตจริงๆนั้น วันนี้ผมเอาวิธีตั้งค่า พร้อมตัวอย่างให้ลองทำตามและเอาไปทำตามแล้วใช้ได้เลย ดังต่อไปนี้

วิธีตั้งค่าเพื่อให้เล่น Internet(EDGE/GPRS/3G) ของ AIS ด้วย Aircard

  • Access Number(Dial Number) : *99***1#
  • APN : internet
  • User Name : ไม่มี
  • Password : ไม่มี
  • Authentication Type : PAP(สำหรับ EDGE/GPRS), CHAP( สำหรับ 3G)

ตัวอย่าง ดังรูป

Ais-config

วิธีตั้งค่าเพื่อให้เล่น Internet(EDGE/GPRS/3G) ของ DTAC ด้วย Aircard

  • Access Number : *99#
  • APN : www.dtac.co.th
  • User Name : ไม่มี
  • Password : ไม่มี
  • Authentication Type : PAP(สำหรับ EDGE/GPRS), CHAP( สำหรับ 3G)

ตัวอย่าง ดังรูป

Dtac-config

วิธีตั้งค่าเพื่อให้เล่น Internet(EDGE/GPRS/3G) ของ Truemove ด้วย Aircard

  • Access Number : *99***1#
  • APN : internet
  • User Name : true
  • Password : true
  • Authentication Type : PAP(สำหรับ EDGE/GPRS), CHAP( สำหรับ 3G)

ตัวอย่าง ดังรูป

Truemove-config

วิธีตั้งค่าเพื่อให้เล่น Internet(EDGE/GPRS/3G) ของ TOT ด้วย Aircard

  • Access Number : *99#
  • APN : internet
  • User Name : ไม่มี
  • Password : ไม่มี
  • Authentication Type : PAP(สำหรับ EDGE/GPRS), CHAP( สำหรับ 3G)

ตัวอย่าง ดังรูป

TOT-config

 

ลองนำวิธีตั้งค่า Internet ซิม AIS,DTAC,Truemove,TOT เพื่อใช้งานกับ Aircard ดังข้างต้น ไปใช้กันดูนะครับ ^^

วิธีแก้ปัญหา Error 0x80070522: A required privilege is not held by the client

Wednesday, October 23rd, 2013

สวัสดีครับ วันก่อนพี่สาวคนสวยให้ช่วยดูเครื่องโน้ตบุ๊ตให้ เนื่องจากวินโดวส์ 7 ไม่สามารถบันทึกไฟล์ลงไดรว์ D: หรือ path อื่นๆในไดรส์ D: ได้ วินโดวส์ 7 ฟ้อง error “0x80070522: A required privilege is not held by the client” ดังรูป
error-0x80070522

ผมก็ค้นหาวิธีอยู่หลายชั่วโมงเหมือนกัน ลองแล้วลองเล่า ตามวิธีที่ค้นเจอ สุดท้ายก็มาหยุดอยู่ที่วิธีแก้ปัญหา Error 0x80070522: A required privilege is not held by the client ด้วย Windows 7 User Account Control(UAC) หรือการใช้ Local Security Policy หาก UAC ไม่สามารถใช้งานได้(ในบางกรณี) เอาล่ะ มาดูวิธีแก้ปัญหา Error 0x80070522: A required privilege is not held by the client กันตามที่เกริ่นมาแล้วกันดีกว่า

1. แก้ด้วย User Account Control(UAC) ทำได้ ดังนี้

  • อันดับแรก ให้ไปที่ Start > แล้วพิมพ์คำว่า “UAC”(ไม่ต้องมี “”) จากนั้นจะปรากฏดังรูป
    start-uac
    ให้คลิกที่ “Change User Account Control Settings”
  • อันดับต่อมา จะปรากฏหน้าต่าง User Account Control Settings ให้กดเลื่อนแถบสไลเดอร์ลงมาเป็น Never Notify ดังรูป
    uac-settings
  • อันดับสุดท้าย ให้กดปุ่ม OK แล้วรีสตาร์ทเครื่อง หลังจากรีสตาร์ท ให้ทดลองคัดลอกไฟล์ หรือบันทึกไฟล์ลงไดรว์ D: แล้วดูผลลัพธ์ครับ

หรือ หาก User Account Control(UAC) ไม่สามารถใช้งานได้ ให้แก้ด้วยวิธีที่ 2 ดังต่อไปนี้
2. แก้ด้วย Local Security Policy(secpol) ทำได้ ดังนี้

  • อันดับแรก ให้ไปที่ ให้ไปที่ Start > แล้วพิมพ์คำว่า “secpol.msc”(ไม่ต้องมี “”) จากนั้นจะปรากฏดังรูป
    secpol-msc
    ให้คลิกที่ secpol.msc
  • อันดับต่อมา จะปรากฏหน้าต่าง Local Security Policy ให้คลิกไปที่ Local Policies->Security Options
    แล้วดับเบิ้ลคลิกที่ “User Account Control: Run all administrators in Admin Approval Mode” เพื่อเปลี่ยนค่าเป็น Disable ดังรูป
    secpol-security-settings
  • อันดับสุดท้าย ให้กดปุ่ม OK และปิดหน้าต่าง Local Security Policy ออกไป จากนั้นให้รีสตาร์ทเครื่อง หลังจากรีสตาร์ท ให้ทดลองคัดลอกไฟล์ หรือบันทึกไฟล์ลงไดรว์ D: แล้วดูผลลัพธ์ครับ

เป็นยังไงกันบ้างครับ สำหรับวิธีแก้ปัญหา Error 0x80070522: A required privilege is not held by the client บนวินโดวส์ 7 ลองนำไปใช้กันดู เท่าี้นี้คุณก็จะไม่มีปัญหาดังกล่าวมากวนใจอีกต่อไปครับ 🙂

วิธี Remove Delta Search Virus (delta-search.com Redirect)

Thursday, October 17th, 2013

พักนี้ มีใครเจอปัญหา ไม่ว่าจะเปิดเว็บเบราเซอร์ Internet Explorer, Firefox, Google Chrome ตัวไหนขึ้นมาก็ตาม มันจะเปิดแรกไปที่เว็บ delta-search.com ทุกครั้งไป? เปิดแท๊บใหม่ขึ้นมาก็เช่นกัน ตัวอย่างหน้าตาที่เปิดจาก Internet Explorer ดังรูป

delta-search-com

Delta Search Virus (delta-search.com Redirect) คือออะไร?
     delta-search.com redirect หรือผู้ใช้ทั่วไปมักจะเรียกอาการที่เจอว่าเป็น ไวรัส Delta Search ซึ่งไม่ว่าผู้ใช้จะเปิดว็บเบราเซอร์ Internet Explorer, Firefox, Google Chrome เพื่อไปยังเว็บไหนๆ มันก็จะ Redirect มาเปิดหน้าเว็บ delta-search.com อยู่ร่ำไป ซึ่งก่อความรำคาญ พาลเสียอารมณ์ กับการทำงานหรือเล่นอินเตอร์เน็ตเป็นอย่างยิ่ง

Delta Search Virus (delta-search.com Redirect) มาได้อย่างไร?

เท่าที่พบ และเจอปัญหานี้มา ส่วนใหญ่เครื่องที่ติดหรือเจออาการ  delta-search.com  redirect มันจะเกิดจาก

  1. การดาวน์โหลดพวกโปรแกรม freeware, shareware ต่างๆ ซึ่งมีไวรัส Delta Search แอบแฝง มาติดตั้งลงเครื่อง ส่วนใหญ่จะเป็นพวกโปรแกรมเกี่ยวกับด้านมัลติมีเดีย อย่างเช่น โปรแกรมดาวน์โหลดเพลง วิดีโอ จากยูทูป, โปรแกรมแปลงไฟล์เพลง วิดีโอ, โปรแกรมเล่นเพลง วิดีโอ เป็นต้น
  2. เล่นอินเตอร์เน็ต ดาวน์โหลดไฟล์จากเว็บฝากไฟล์ฟรี หรือเล่นเว็บโซเชี่ยลต่างๆ ซึ่งเว็บพวกนี้มักจะมีโฆษณาแฝงมาด้วย ซึ่งเกิดจากผู้ปล่อย ไวรัส Delta Search ลงโฆษณาไว้
  3. พวกโปรแกรม  Toolbar ซึ่งหากติดตั้งโปรแกรมไปโดยไม่ทันสังเกตุ ขณะติดตั้งโปรแกรม จะ default ติ๊กให้ดาวน์โหลดและติดตั้ง Delta Search  Toolbar เพื่อยึดครองเว็บเบราเซอร์ Internet Explorer, Firefox, Google Chrome ของผู้ใช้

วิธี Remove Delta Search Virus (delta-search.com Redirect) ?

ถึงแม้ว่าจะแก้ไขโดยการ Uninstall Delta Search Add-ons ออกจาก Internet Explorer, Firefox, Google Chrome ไปแล้ว แต่อาการ delta-search.com Redirect ก็ยังคงอยู่ วิธีลบไวรัส delta-search.com Redirect ได้ชะงัดนัก ก็คือการใช้โปรแกรมรันสแกนและลบ ซึ่งโปรแกรมที่แนะนำก็ตือโปรแกรม AdwCleaner

adwCleaner-scan-result

วิธีติดตั้งและใช้งานโปรแกรม AdwCleaner

  1. คลิ๊ก ลิงก์ดาวน์โหลด AdwCleaner เพื่อไปหน้าดาวน์โหลดโปรแกรม AdwCleaner
  2. หลังจากดาวน์โหลดโปรแกรม AdwCleaner มาไว้ที่เครื่องแล้ว ให้เปิดรันโปรแกรมขึ้นมา โดยดับเบิ้ลคลิ๊กที่ไฟล์ AdwCleaner.exe
  3. จากนั้นโปรแกรมเปิดขึ้นมาแล้ว ให้กดปุ่ม Scan จากนั้นรอสักครู่เพื่อดูผล ซึ่งจะแสดงผลที่หน้า Result ดังรูปข้างต้น
  4. ต่อมาโปรแกรม Scan เสร็จแล้ว ให้กดปุ่ม Clean เพื่อทำการลบไวรัส delta-search.com Redirect
  5. สุดท้ายเมื่อโปรแกรมลบไวรัส delta-search.com Redirect เรียบร้อยแล้ว ก็จะแสดง Log ไฟล์ ขึ้นมา ดังรูป
  6. adwcleaner-clean-log
  7. เป็นอันเรียบร้อยครับ เจ้าไวรัส delta-search.com Redirect ถูกลบออกไปจากเครื่องแล้ว
  8. จากนั้นก็รีสตาร์ทเครื่องหนึ่งครั้ง แล้วทดสอบดเว็บเบราเซอร์ Internet Explorer, Firefox, Google Chrome ใช้งานดูครับ

เป็นยังไงกันบ้างครับ สำหรับวิธี Remove Delta Search Virus (delta-search.com Redirect) ออกจากเครื่อง แก้ความรำคาญ ปัญหากวนใจให้หมดสิ้นไปเสียที ลองนำวิธีแก้ไขตามบทความนี้ไปใช้กันดู ^^

PageRank Status เครื่องมือวิเคราะห์ Traffic และ SEO บน Google Chrome

Saturday, October 12th, 2013

มีเพื่อนคนหนึ่ง ถามมาว่า อยากหาเครื่องมือหาข้อมูล เพื่อวิเคราะห์ Traffic และ SEO ของเว็บไซต์ฟรีๆ และไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมอะไรเพิ่มเติมใน Google Chrome พอจะมีหรือเปล่า? ก็เลยบอกเพื่อนไปว่า มี! เป็น Extensions ใน Google Chrome นี่หล่ะ ชื่อว่า PageRank Status

PageRank Status เป็นเครื่องมือสำหรับวิเคราะห์ Traffic และ SEO ของเว็บ ที่ให้ใช้ได้ฟรีๆบน Google Chrome ครับ คุณสมบัติหรือฟีเจอร์หลักๆ มีดังนี้

1. SEO stats แสดงข้อมูล Rank, Backlinks, Indexed,Cachedรวมถึงข้อมูล Geolocation ด้วย ดังรูป
pagerank_seo_stats

2. Traffic stats แสดงข้อมูล Traffic จาก Alexa Traffic Rank ซึ่งสามารถเลือกดูเป็นช่วงเวลาได้ ดังรูป
pagerank_traffic_stats

3. Site info แสดงข้อมูล Domain information, Site Security, Geolocation รวมถึง On-site และ Social (SNS) ด้วย ดังรูป
pagerank_site_info

4. Page info แสดงข้อมูลในหน้าเว็บเพจนั้นๆที่เรากำลังดู ได้แก่ URL,Canonical URL,Title,Meta keywords,Meta Description,Meta Robots,External links,Internal links,H1,H2,Bold/Strong,Italic/em,Alt text,Body text เพื่อใช้ในการวิเคราะห์ว่าในหน้าเพจนั้นๆ เราต้องทำ On-page อะไรเพิ่มเติมหรือเปล่า ดังรูป
pagerank_page_info

5. Links stats แสดงข้อมูลลิงก์ ทั้งลิงก์ภายใน(Internal links) และ ลิงก์ภายนอก(External links) ซึ่งแสดงทั้ง URL และ Anchor text ด้วย ดังรูป
pagerank_links_stats

 

นอกจากนั้นยังมีหน้าแสดงผลเกี่ยวกับระยะเวลา หรือ performance ในการ Load page นั้นๆด้วย รวมไปถึงพวกเครื่องมือ หรือ Webmaster tools ภายนอกต่างๆ อีกด้วย

ส่วนวิธีติดตั้งและใช้งาน Pagerank Status มีดังตอไปนี้

1. ใช้ Google Chrome เปิดไปที่หน้าเว็บ Chrome Web Store (https://chrome.google.com/webstore/category/apps) จากนั้นค้นหาด้วยคำว่า “pagerank status” (หรือคลิกที่ลิงก์ นี้ เพื่อไปยังหน้า PageRank Status) เมื่อค้นหา จะพบ PageRank Status ดังรูป

pagerank_status

ให้กดที่ปุ่ม Free เพื่อติดตั้งลงบน Google Chrome

2. จากนั้นจะปรากฏหน้าต่างเล็กๆ เด้งขึ้นมาเพื่อให้ยืนยันการติดตั้ง PageRank Status โดยกดปุ่ม Add ดังรูป

pagerank_add

3.รอสักครู่ Google Chrome ก็ทำการติดตั้ง PageRank Status และแจ้งผลการติดตั้งให้ทราบ ดังรูป

pagerank_add_toolbar

4. หลังจากติดตั้งเสร็จ ก็พร้อมใช้งานแล้ว โดยเมื่อเราเข้าหน้าเว็บไซต์หรือหน้าเพจไหนที่สนใจจะวิเคราะห์ Traffic หรือ SEO ก็ให้กดที่ปุ่ม ดังรูปเม้าส์ชี้
pagerank_status_icon

5. ส่วนถ้าจะยกเลิกการติดตั้งก็ไม่ยาก โดยไปที่ Google Chrome Control Panel > Tools > Extensons แล้วเลือก Extensions โดยกดปุ่ม ถังขยะ เพื่อลบ Extension นั้นๆออกจาก Google Chrome
chrome_extensions_pagerank

เป็นยังไงกันบ้างครับ สำหรับ Extension ที่ชื่อว่า PageRank Status เครื่องมือช่วยวิเคราะห์ Traffic และ SEO บน Google Chrome แบบฟรีๆ โดยไม่ต้องเสียตังค์ ลองนำไปใช้กันดูนะครับ 🙂

เซฟหน้าเว็บเพจเป็นไฟล์ PDF ง่ายๆด้วย Google Chrome

Thursday, October 10th, 2013

Save-PDF-With-Google-Chrome

หากเราเปิดไปเจอหน้าเว็บเพจใดเว็บเพจหนึ่ง ซึ่งมีข้อมูลที่น่าสนใจ แล้วอยากจะบันทึกเก็บไว้ในลักษณะ E-Book(PDF ไฟล์) เพื่อเก็ยสะสม รวบรวมไว้เป็นคลังความรู้ของตัวเอง เราจะทำอย่างไรครับ? สำหรับผมง่ายๆครับ แค่ใช้ Google Chrome เบราเซอร์ เป็นตัวช่วยในการบันทึกไฟล์ PDF แล้ว Manual รวบรวมเป็น E-Book ตามที่เราต้องการ ซึ่งวิธีการที่เล่ามา สามารถทำได้ ดังนี้

 

 

 

 

1. ใช้ Google Chrome เบราเซอร์ ในการท่องอินเตอร์เน็ต เปิดหน้าเว็บเพจที่มีข้อมูลที่เราสนใจ

2. จากนั้น ไปที่ Google Chrome Control Panel แล้วเลือกเมนู Print… (คลิ๊กลำดับตามหมายเลข 1 และ 2 ตามลูกศรชี้) ดังรูป

Chrome-Control-Print

2. ต่อมา จะปรากฏแถบเครื่องมือสำหรับบันทึกไฟล์ PDF จากนั้นให้กดปุ่ม Save (ตามหมายเลข 3)
Chrome-Settings

3. จากนั้นจะปรากฏหน้าต่าง Save As ให้เลือก Path ที่ต้องการบันทึกไฟล์ PDF, ระบุชื่อไฟล์ PDF ตามต้องการ จากนั้นกดปุ่ม Save เป็นอันเรียบร้อย ได้แล้วครับ ไฟล์ PDF หนึ่งไฟล์ ดังรูป
Print-Dialog

หมายเหตุ

อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับส่วนต่างๆของเครื่องมือบันทึก PDF ใน Google Chrome (ตั้งแต่หมายเลข 3 ถึง หายเลข 13 ตามลูกศรชี้)

หมายเลข 3 กดปุ่ม Save เพื่อบันทึกไฟล์ PDF

หมายเลข 4 กดปุ่ม Cancel เพื่อยกเลิกและปิดเครื่องมือบันทึกไฟล์ PDF

หมายเลข 5 กดปุ่ม Change เพื่อเปลี่ยน Destination

หมายเลข 6 เลือก All เพื่อทำการบันทึกเป็น PDF ทุกหน้า

หมายเลข 7 เลือก แล้วระบุจำนวนหน้าเว็บเพจที่ต้องการบันทึกเป็น PDF

หมายเลข 8 เลือก Portrait ให้หน้า PDF เป็นแนวตั้ง

หมายเลข 9 เลือก Landscape ให้หน้า PDF เป็นแนวนอน

หมายเลข 10 เลือก Margins ระยะขอบของหน้า PDF ซึ่งมีให้เลือก 4 แบบ คือ Default(ค่ามาตรฐาน),None(ไม่มีระยะขอบ),Minimun(ชิดขอบที่สุด), Custom(กำหนดเอง)

หมายเลข 11 Headers and Footers แสดงหัวและท้ายหน้า PDF

หมายเลข 12 Background colors and images กำหนดให้พิมพ์ภาพพื้นหลังและรูปภาพด้วย

หมายเลข 13  Print using system dialog… สำหรับตั้งค่าเครื่องพิมพ์ (ใช้ในกรณีที่ต้องการพิมพ์หน้าเว็บเพจออกทางเครื่องพิมพ์) ดังรูป
Printer-Settings

 

เป็นยังไงกันบ้างครับ ทิปเล็กๆน้อยจาก Google Chrome เบราเซอร์ ที่ช่วยให้เราเซฟหน้าเว็บเพจเป็นไฟล์ PDF ได้ง่ายๆ ไม่ต้องลงโปรแกรมหรือติดตั้งเครื่องมืออะไรเพิ่มเติม ลองนำทิปนี้ไปใช้กันดูนะครับ 🙂

BestVideoDownloader ปลั๊กอินช่วยดาวน์โหลดวิดีโอยูทูปบน IE, Google Chrome,Firefox

Sunday, July 14th, 2013

ปัจจุบันนี้เว็บยูทูป(Youtube.com) ถือได้ว่าเป็นเว็บที่มีผู้ชม ผู้ฟังนิยมเข้าไปใช้บริการ เพื่อรับชม รับฟังวิดีโอ เพลง สตรีมมิ่งออนไลน์มากที่สุดเว็บหนึ่ง และหลังจากชมและฟังแล้ว ก็อยากดาวน์โหลดหรือบันทึกวิดีโอ เพลงนั้นๆไว้ชมไว้ฟังในคราวหลังด้วย แต่หลายคนก็ติดปัญหาว่า จะดาวน์โหลดหรือบันทึกไฟล์วิดีโอ เพลง ได้ยังไง?

วันนี้ผมมีปลั๊กอินสุดเจ๋ง มาแนะนำสำหรับใช้ในการดาวน์โหลดวิดีโอยูทูป ไม่ว่าคุณจะใช้เบราเซอร์ IE, Google Chrome หรือ Firefox ในการเยี่ยมชมดูคลิปวิดีโอบน Youtube เหล่านั้นแล้ว ปลั๊กอินที่ว่านั้นก็คือ ปลั๊กอิน BestVideoDownloader

bestvideodownloader

โดยขั้นตอนติดตั้งและวิธีใช้งานปลั๊กอิน BestVideoDownloader ก็ไม่มีอะไรยุ่งยากซับซ้อน ตามขั้นตอนต่อไปนี้

1. ให้ทำการดาวน์โหลดและติดตั้งปลั๊กอิน BestVideoDownloader ลงเครื่อง โดยดาวน์โหลดปลั๊กอิน BestVideoDownloader ให้คลิก ที่นี่

2. เมื่อดาวน์โหลดเสร็จแล้วให้ปิด IE, Google Chrome,Firefox ออกไปก่อน จากนั้นดับเบิ้ลคลิกที่ไฟล์ BestVideoDownloader.exe เพื่อติดตั้ง ติดตั้งปลั๊กอิน BestVideoDownloader

3. รอสักครู่จะมีหน้าจอให้ติดตั้งBestVideoDownloader จะมีช่องให้ติ๊กเลือกว่าจะติดตั้งปลั๊กอินเข้ากับเบราเซอร์อะไรบ้าง(โดยปกติ โปรแกรมมันจะเลือกไว้ให้เองอยู่แล้ว) ดังรูป

best_video_downloader_setup1

4. จากนั้น ให้กดปุ่ม Agree จะมีหน้าต่างปรากฏขึ้นมา ดังรูป ข้างล่าง ให้กดปุ่ม Decline ไปเลย

best_video_downloader_setup2

5. ต่อมาจะมีหน้าต่างถามความยินยอมให้ติดตั้ง Delta Toolbar ลงเครื่องหรือไม่ ให้ติ๊กเครื่องหมายถูกออกหน้าข้อความต่อไปนี้

  • Install Delta Toolbar
  • Make Delta My Default Search Engine
  • Make Delta My Default Homepage and New Tab

จะได้ดังรูป

best_video_downloader_setup3

6. จากนั้นให้กดปุ่ม Decline และรอสักครู่ โปรแกรมก็จะทำการติดตั้งปลั๊กอินBestVideoDownloader ลงเครื่อง

7.  เมื่อติดตั้งเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะปรากฏหน้าจอ ดังรูป ให้กดปุ่ม Finish เพื่อเสร็จสิ้นการติดตั้ง

best_video_downloader_setup4

8. จากนั้นให้เปิดโปรแกรมเบราเซอร์ที่ใช้ในการดูคลิปวิดีโอในยูทูป (อาจจะเป็น  IE หรือ Google Chrome หรือ Firefox) ตามแต่ถนัดและได้ติดตั้งไว้ใช้ในเครื่องครับ

9. ต่อมาให้เข้าไปที่เว็บ Youtube.com แล้วเลือกฟัง ชมวิดีโอ เพลง คลิปที่ต้องการจะดาวน์โหลดหรือบันทึกเก็บไว้ ซึ่งจะมีปุ่ม Download อยู่ด้านล่างคลิปวิดีโอนั้นๆ ให้กดปุ่ม Download แล้วเลือกรูปแบบไฟล์ที่จะดาวน์โหลด เช่น Mp3(เพลง), MP4(วิดีโอ) เป็นต้น ดังรูป

how-it-works[1]

 

เมื่อเลือกดาวน์โหลดและบันทึกไฟล์ไว้ตามที่ต้องการแล้ว ก็รอสักครู่ จนกว่าจะดาวน์โหลดวิดีโอนั้นๆเสร็จ

video_download

เพียงเท่านั้นก็จะสามารถดาวน์โหลดคลิปวิดีโอจากยูทูป ไม่ว่าคุณจะใช้ IE, Google Chrome หรือ Firefox แล้วละครับ ลองนำไปใช้กันดูนะครับ 😀

วิธีตรวจสอบและแก้ปัญหา Google Chrome อืดและช้า เบื้องต้น

Thursday, July 11th, 2013

เข้าใจว่าหลายคนคงจะเจอปัญหา Google Chrome อืดและช้า ซึ่งผมเองก็เจอปัญหานี้มาเหมือนกัน ก็เลยลองๆงัดแงะ Google Chrome ดูว่ามันเป็นอะไร รวมทั้งค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม ก็ได้พบแนวทางที่เอามาแชร์ลงในบทความนี้ให้เพื่อนๆที่เจอปัญหาเช่นเดียวกันนี้ นำไปใช้กันดู ตามวิธีการดังต่อไปนี้

ตรวจสอบ  Background Process หรือ Task

1. ให้ตรวจสอบดู Background Process หรือ Task ที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง ซึ่งอาจจะแสดงหรือไม่แสดงให้เราเห็นใน Tab ก็ได้ โดยสามารถตรวจสอบได้ดังนี้
2. ไปคลิกที่ปุ่ม Customize and control Google Chrome จากนั้นเลือก View Background pages ดังรูป

chrome_task_manager1

หรือ ไปคลิกขวาที่แถบ Tab ที่ว่าง แล้วเลือกเมนู Task Manager ดังรูป

chrome_task_manager2

3. จากนั้นจะปรากฏหน้าต่าง Task Manager ดังรูป

chrome_task_manager

เพื่อเช็ค Background Process หรือ Task ที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง จากนั้นก็เลือก Process หรือ Task ที่ต้องการ แล้วกดปุ่ม End process ได้เลย

view_task

หมายเหตุ Task หรือ Process ที่ชื่อว่า Browser และ GPU Process อย่าไป End process มันนะครับ เพราะนั่นคือ Process หลักของ Google Chrome

 ตรวจสอบการเปิดใช้ Extension/Plugin ต่างๆ

1. จากวิธีการตรวจสอบ Background Process หรือ Task ข้างต้นแล้ว เป็นการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าครับ ถ้าจะแก้ปัญหาระยะยาว ต้องมาตรวจสอบดูว่า เราติดตั้ง ใช้งาน Extension/Plugin อะไรอยู่หรือเปล่า รวมไปถึงติดตั้ง Chrome Apps ตัวไหนลงไปด้วย ที่ทำให้ Google Chrome ทำงานหนัก จนอืดจนช้าลงไป โดยสามารถตรวจสอบ ปิด เปิด การใช้งาน Extension/Plugin ได้ดังนี้

2. ให้พิมพ์ข้อความ “chrome://extensions/“(ไม่ต้องมี “”) ที่ช่อง URL  หรือไปที่ปุ่ม Customize and control Google Chrome แล้วเลือกเมนู Tools > Extensions ดังรูป

chrome_extension_setting1

 

3. จะปรากฏแท๊บ Extensions ดังรูป

chrome_extension_setting

 

4. แล้วเลือก Disable/Enable Extensions ที่เราเห็นว่ามันใช้หน่วยความจำเยอะ หรือทำให้ Google Chrome อืด ช้า (ดูจากหน้า Task Manager) ดังรูป

disable_chrome_extension

แล้วคลิกเครื่องหมายถูกออกเพื่อ Disable หรือคลิกเครื่องหมายถูก เพื่อ Enable หรือคลิกที่รูปไอคอนถังขยะ เพื่อ Uninstall Extensions นั้นๆออกไป

5. จากนั้นก็ปิด แล้วเปิด Google Chrome ใหม่อีกครั้ง ดูผลลัพธ์ครับ

หวังว่าบทความวิธีตรวจสอบและแก้ปัญหา Google Chrome อืดและช้า เบื้องต้นนี้ จะช่วยให้เพื่อนๆใช้งาน Google Chrome ได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นนะครับ 🙂

About Me

เว็บ ilovebrowser.com(i♥b) ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นแหล่งข้อมูล แหล่งเรียนรู้ วิธีการใช้งานเว็บเบราว์เซอร์ วิธีแก้ไขปัญหาเว็บเบราว์เซอร์ แนะนำทิป ทริก เทคนิคต่างๆ ที่เกี่ยวกับเว็บเบราว์เซอร์ ไม่ว่าจะเป็นเว็บเบราว์เซอร์ Internet Explorer,Firefox,Chrome,Opera,Safari,Maxthon และเว็บเบราว์เซอร์อื่นๆ More

Want to subscribe?

Subscribe in a reader